นกโจรสลัด เป็นนกทะเลขนาดกลาง-ใหญ่ ที่อยู่ในวงศ์ Fregatidae มีเพียงสกุลเดียวเท่านั้น คือ Fregata ในอันดับ Pelecaniformes อันดับเดียวกันกับนกกระทุง
มีรูปร่างโดยรวม คือ มีปากยาวกวางหัวและเป็นรูปทรงกระบอก
ปลายจะงอยปากทั้งสองเป็นขอบแนวสบเรียบ รูจมูกเล็กลักษณะเป็นรองยาว
ถุงใต้คางเล็กแต่พองออกได้ ปากยาวมาก ปลายปากแหลม
ขนปลายปากเส้นสุดท้ายหรือเส้นนอกสุดยาวที่สุด หางเป็นหางแบบเว้าลึก มีขนหาง
12 เส้น แข็งเล็กและสั้น ประมาณ 1 ใน 5 ของความยาวปาก นิ้วยาว
โดยมีนิ้วที่ 3 ยาวที่สุด ปลายนิ้วเป็นเล็บยาว เล็บหยัก
มีพังผืดนิ้วเป็นแบบตีนพัดเต็ม แต่มักมีขนาดเล็กและเชื่อมเฉพาะโคนนิ้ว
ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะและสีสันแตกต่างกัน ทำรังเป็นกลุ่มตามพุ่มไม้เตี้ย
หรือตามโขดหิน หรือพื้นทราย วางไข่เพียงครอกละ 1 ฟอง เปลือกไข่สีขาว
จะช่วยกันกกไข่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย
ลูกนกแรกเกิดมีสภาพเป็นลูกอ่อนเดินไม่ได้ ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน
ลูกนกที่จะเริ่มออกมาจากรังเกาะกิ่งไม้
แต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของพ่อแม่อีกนานนับปี
นกโจรสลัดจัดเป็นนกที่บินได้
ที่เมื่อกางปีกออกแล้วถือว่าเป็นนกจำพวกหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
เพราะกางปีกออกแล้วจะมีความยาวจากปีกข้างหนึ่งไปจรดอีกข้างหนึ่งประมาณ
70-100 เซนติเมตร และสามารถบินอยู่บนอากาศได้เป็นเวลาหลายวัน โดยไม่ต้องลงพื้นดิน เป็นนกที่ทรงตัวได้ดี เนื่อวงจากปีกมีขนาดใหญ่และหางในการรับน้ำหนัก และทรงตัว
นกโจรสลัดเป็นนกที่กินเนื้อเป็นอาหาร มีพฤติกรรมชอบโฉบขโมยปลาจากนกอื่น เช่น นกนางนวลเป็นประจำ อันเป็นที่มาของชื่อเรียก แต่บางครั้งก็จะโฉบจับเหยื่อจากน้ำด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถที่จะดำน้ำได้ เป็นนกที่หากินในเวลากลางวัน และนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังกินอาหารอย่างอื่นได้ด้วย เช่น ลูกเต่าทะเลแรกฟัก เป็นต้น[1]
เป็นนกที่มีความแตกต่างระหว่างเพศผู้และเพศเมียอย่างชัดเจน เพศผู้เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะมีถุงใต้คางสีแดงสด
เห็นชัดเจน จนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถุงนี้มีไว้เพื่ออวดเพศเมียในฤดูผสมพันธุ์
เพื่อดึงดูดความสนใจจากเพศเมีย โดยจะป่องหรือเป่าถุงนี้ให้พองขึ้น
- นกโจรสลัดแม็กนิฟิเชี่ยน (Fregata magnificens)
- นกโจรสลัดเอสเซนเชี่ยน (Fregata aquila)
- นกโจรสลัดเกาะคริสต์มาส (Fregata andrewsi)
- นกโจรสลัดใหญ่ (Fregata minor)
- นกโจรสลัดเล็ก (Fregata ariel)
พบได้ในประเทศไทย 3 ชนิด คือ นกโจรสลัดเกาะคริสมาสต์, นกโจรสลัดใหญ่ และนกโจรสลัดเล็ก โดยจะพบแถบหมู่เกาะและจังหวัดในภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน เช่น อ่าวมาหยา หรือเกาะพีพี เป็นต้น นานครั้งจึงจะพบในแถบอ่าวไทย
ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น